หมวด การรับรู้สถานการณ์อันตราย

  • รถยนต์ ก. และรถยนต์ ข. วิ่งมาถึงทางแยกพร้อมกัน  และเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวกัน  ดังรูป ต้องถือว่ารถยนต์คัน ก. เป็นฝ่ายผิด  เนื่องจากบริเวณทางแยกลักษณะนี้ ต้องให้รถที่อยู่ด้านขวาไปก่อน
  •  รถ ก. ข. และ ค. เลี้ยวซ้ายพร้อมกันดังรูป ถือว่า รถยนต์คัน ก. และรถยนต์คัน ค. กระทำผิดกฎหมาย
 
  •  หากท่านประสงค์จะขับรถเข้าซอยทางซ้าย ด้านหน้ารถโดยสารประจำทาง ท่านต้องหยุดรอ ให้รถโดยสารประจำทางออกไปก่อน จึงเลี้ยวเข้าซอย 
  • หากท่านขับรถคัน ก. ออกจากห้างสรรพสินค้า  ซึ่งมีป้ายรถเมล์อยู่หน้าห้างดังรูป  ท่านจะต้องหยุดรถบริเวณทางออก ดูรถด้านขวามือ ถ้าไม่มีรถวิ่งมาก็ดูรถด้านซ้ายมือว่ามีรถมาจอดต่อท้ายรถโดยสารประจำทางหรือไม่ ถ้าด้านซ้ายมือไม่มีรถก็ขับรถออกไป    
  • จากรูปเป็นการชนประสานงากันระหว่างรถคัน ก และ รถคัน ข   รถ ก. ผิด เพราะแซงด้านซ้าย  ส่วนรถ ข. ผิดเพราะขับรถย้อนศร
        
  •   สมมติท่านขับรถคัน ก.  ในระหว่างที่ขับรถอยู่นั้นรถในช่องทางด้านขวามือของท่านตั้งแต่รถคัน ข. ลงมา อยู่ ๆ ก็หยุดรถท่านเห็นรถในช่องขวามือของท่านหยุด ท่านต้องหยุดรถพราะคาดว่าทางข้างหน้าอาจจะมีคนข้าม
  •   ท่านขับรถตามหลังรถโดยสารประจำทาง  เมื่อถึงป้ายรถเมล์  รถโดยสารประจำทางจอดให้ผู้โดยสาร ท่านควรหยุดรถหลังรถโดยสารประจำทางเพราะอาจจะมีคนโดยสารรถประจำทางเดินตัดหน้ารถโดยสารประจำทาง
  •   เมื่อท่านขับรถยนต์ไปในทางโค้งด้านขวา รถเสียหลักหลุดโค้งออกไปด้านซ้ายลงข้างทางไปชนเสาไฟฟ้า ถือว่าท่านกระทำผิดกฎหมายจราจรทางบก เนื่องจากไม่ชะลอความเร็วของรถเมื่อขับรถในทางโค้ง

  •  เมื่อท่านขับรถที่มุ่งหน้าเข้าหาหน้าผาของภูเขาสูง  แสดงว่าถนนที่ท่านกำลังขับรถอยู่นั้นจะต้องเป็นทางโค้งขวาหรือโค้งซ้าย
  •  ท่านเห็นรถ ก. ชนกับรถ ข. อย่างแรงจนรถทั้ง 2 คันพังยับเยินผู้ขับรถทั้ง 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ตรงบริเวณสามแยก  โดยเห็นว่ารถ ข. วิ่งออกจากซอย ชนกับรถ ก. ที่วิ่งมาบนถนนสายหลัก  ดังรูป
 ถือว่าผิดทั้งคู่ เพราะผู้ขับรถ ก. ไม่ลดความเร็วเมื่อขับรถผ่านทางร่วมทางแยก และผู้ขับรถ ข.  ไม่ให้รถที่มีสิทธิ์ผ่านไปก่อน

  • เมื่อท่านจะขับรถออกจากปากซอย ดังรูป ท่านควรหยุดรถที่ปากซอยก่อนแล้วรอจังหวะเลี้ยวออกไป
  • ท่านขับรถคัน ก.  เมื่อท่านขับรถถึงบริเวณสี่แยกที่ไม่มีไฟสัญญาณจราจร ท่านควรหยุดรถก่อนเมื่อถึงทางแยก
 
  •  ในขณะที่ท่านกำลังขับรถเลี้ยวขวา ดังรูป ท่านเห็นว่าเบรกไม่ทันรถของท่านจะชนรถคันหน้า จะหักพวงมาลัยรถไถลลงข้างทางไปชนต้นไม้ ถิอว่าผิดกฎจราจรเพราะไม่ลดความเร็วของรถเมื่อขับผ่านทางร่วมทางแยก
  •  ขณะที่กำลังขับรถอยู่  มีสุนัขวิ่งตัดหน้ารถ ท่านหักหลบสุนัขลงข้างทาง ถือว่าท่านขับรถไม่เป็น

  •   ท่านขับรถคัน ก.  เหตุการณ์ต่อไปนี้  ท่านเป็นฝ่ายกระทำผิดเพราะแซงอย่างผิดกฎหมาย
  •  ท่านขับรถคัน ข.  จากรูปรถของท่านถูกรถของนาย ก. คัน ก. ชนบริเวณสี่แยกที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจร  ถือว่าคัน ก เป็นฝ่ายผิด  เพราะกลับรถในบริเวณทางร่วมทางแยก
  •   รถของท่าน (คัน ข.) ชนกับรถของนาย คัน ก.  ตรงบริเวณที่ท่านกำลังเลี้ยวขวาเข้าซอย ดังรูป  (รูปภาพ) ท่านเป็นฝ่ายผิด เพราะขับล้ำเข้าในช่องทางรถสวน
  •   สมมติว่าในขณะที่ท่านรอข้ามถนนได้เห็นเหตุการณ์รถตู้ส่งของมีคนนั่ง 2 คนถูกรถเก๋งชนท้าย
ด้านขวา  ทำให้รถตู้หมุน 3 รอบ คนขับรถตู้กระเด็นออกจากตัวรถ ศีรษะฟาดพื้นถนนเสียชิวิต
คนขับรถตู้กระเด็นออกจากตัวรถเนื่องจากไม่คาดเข็มขัดนิรภัย

  •  สมมติว่า นาย ก. มีโปรแกรมขับรถตู้พาครอบครัวจากกรุงเทพฯไปท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน
โดยออกเดินทางในเวลา 02.00 น.  คาดว่าจะไปถึงจังหวัดแม่ฮ่องสอนในเวลาประมาณ 20.00 น.
เมื่อขับรถติดต่อกันเป็นเวลา 12 ชั่วโมง  ปรากฏว่ารถเสียหลักแฉลบลงข้างทางชนต้นไม้  เป็นเหตุ
ครอบครัวของนาย ก.ได้รับบาดเจ็บหลายคน อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอาจเนื่องมาจาก นาย ก. หลับใน หรือไม่ชำนาญเส้นทาง

  •  การถูกรถในช่องทางขับข้ามเกาะกลางมาชนประสานงาเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงที่สุดที่เกิดขึ้นกับรถที่ขับช่องขวาสุด

  • เมื่อท่านจะขับรถผ่านบริเวณที่เป็นสี่แยกเล็ก ๆ ดังรูป เหตุการณ์ต่อไปนี้อาจเกิดขึ้นได้
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น